อาหารไทย เมื่อพูดถึง แน่นอนว่าทุกคนที่จะนึกถึงรสชาติอาหารที่จัดจ้าน มีความเผ็ดร้อนของเครื่องแกง สมุนไพรไทย ความเข้มข้นในรสชาติมีเอกลักษณ์นี้ ทำให้อาหารไทยเป็นวัฒนธรรมประจำชาติอย่างหนึ่งที่ได้รับการสั่งสมและถ่ายทอดสืบต่อกันมายาวนาน
นอกจากจะเป็นอาหารของคนไทยแล้ว ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติอีกเป็นจำนวนมาก จะเห็นได้จากผลสำรวจการจัดอันดับอาหารทั่วโลก ที่เมนูอาหารไทยจะติดอันดับสุดยอดอาหารที่คนต่างชาติติดใจ เป็นที่เลื่องลือถึงความอร่อยไปทั่วโลก จนใครๆ ที่มีโอกาสเป็นต้องลิ้มลอง และในวันนี้ bcnmalagacookingขอนำทุกท่านไปลิ้มรสทางสายตากับ 5 อาหารไทยที่ควรกินสักครั้ง ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลยค่ะ

มัสมั่น
เมนูอาหารที่ได้รับเสียงโหวตจากคนทั่วโลก ว่า อร่อยที่สุด ซึ่งรสชาติโดยรวมของมัสมั่นคือ หอมเครื่องเทศต่าง ๆ รสชาติหวาน เปรี้ยว เค็ม เผ็ดนิดหน่อย และยิ่งได้กะทิหอมอร่อยด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เมนูดังกล่าวน่าสนใจและอร่อยมากยิ่งขึ้น ส่วนที่มาของเมนูนี้มีต้นตำรับที่แท้จริงมาจากอินเดีย
สูตรการทำอาหารนี้เข้ามาในประเทศไทยสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยชาวเปอร์เซีย แกงมัสมั่นแบบต้นตำรับจึงมีรสชาติออกเค็มมัน และนิยมใช้เนื้อวัวมาปรุง ส่วนมัสมั่นของไทยจะมีรสหวานนำ และลดปริมาณเครื่องเทศให้น้อยลง ในปัจจุบันมีการเลือกใช้เนื้อสัตว์ที่หลากหลายมากขึ้น ถือเป็นการปรับรสชาติให้เข้ากับความชื่นชอบของคนไทยนับได้ว่าอาหารไทย

ผัดไทย
อาหารอีกจานที่คนต่างชาติรู้จักกันมาก เนื่องจากชื่ออาหารที่เรียกง่าย และบ่งบอกความเป็น อาหารไทย ได้อย่างชัดเจน อันที่จริงแล้วผัดไทยนั้นมีมาตั้งแต่โบราณ และเป็นหนึ่งในอาหารจำพวกก๋วยเตี๋ยวผัด แต่เริ่มเป็นที่รู้จักกันทั่วไป และเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติมากขึ้นในสมัยของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งเป็นช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ จากสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้มีการรณรงค์ให้หันมานิยมกินก๋วยเตี๋ยวแทน เพื่อลดการบริโภคข้าวภายในประเทศ และยังมีการเปลี่ยนชื่อให้เป็น “ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย” เพื่อเน้นความนิยมไทยอีกด้วย

ต้มยำกุ้ง
เมนูแรกๆ ที่ชาวโลกพูดถึงหากมีหัวข้อเกี่ยวกับอาหารไทย โดยต้มยำนั้นถือเป็นอาหารประเภทแกง เน้นรสเปรี้ยวและเผ็ดเป็นหลัก ผสมกับความเค็มและหวานเล็กน้อย ส่วนใหญ่แล้วคนจะรู้จักต้มยำกุ้งมากกว่าต้มยำที่ใส่เนื้อสัตว์ชนิดอื่น ต้มยำกุ้งจะมี 2 ประเภท คือ ต้มยำน้ำใส และต้มยำน้ำข้น
ซึ่งต้มยำโบราณจริงๆ นั้นไม่ได้ใส่น้ำพริกเผา จะเป็นต้มยำน้ำใส ที่ใส่มันกุ้งให้ดูสวยงามและเพิ่มรสชาติ ในช่วงหลังเริ่มหามันกุ้งได้ยากขึ้นเลยประยุกต์ใส่น้ำพริกเผาลงไปแทนเพื่อให้สีสันสวยงาม และยังมีการใส่กะทิ หรือนมสด ลงไปในต้มยำ ถือเป็นการดัดแปลงจากน้ำใสมาเป็นน้ำข้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ของกลิ่นข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมมะนาวสด สมชื่อ ต้มยำ

แกงเขียวหวาน
เมนูนี้เป็นแกงกะทิที่ถูกพัฒนามาจากแกงเผ็ดแบบดั้งเดิม คือ แกงเผ็ดจะใช้พริกแห้งสีแดงเป็นส่วนผสม จากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้พริกสดสีเขียว และใส่ใบพริกสดตำลงไปพร้อมกับเครื่องแกงด้วย เพื่อให้มีสีเขียวที่เด่นชัดขึ้น ชื่อแกงเขียวหวานมีที่มาจากสีเขียวของเครื่องแกง แต่คำว่า หวาน นั้น ไม่ได้หมายถึงรสชาติของอาหารแต่อย่างใด กลับหมายถึงเป็นแกงที่มีสีเขียวแบบหวาน เขียวนวลๆ ส่วนรสชาติของเมนูนี้จะเน้นเค็มนำ แล้วหวานตาม และจะมีความเผ็ดมากกว่าแกงเผ็ดชนิดอื่นเล็กน้อย เพราะใช้พริกสดเป็นเครื่องแกง

ส้มตำ
คนส่วนใหญ่จะคิดว่าส้มตำคืออาหารทางภาคอีสาน ซึ่งจริง ๆ แล้วเมนูนี้มีต้นกำเนิดมาจากทางภาคกลาง ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเริ่มจากนำมะละกอมาตำรวมกับพริก มะนาว และน้ำตาลปี๊บ เนื่องจากคนไทยสมัยก่อนชอบรสเปรี้ยว หวาน ดังนั้นจึงเป็นที่มาของคำว่า “ตำไทย” ส่วนในปัจจุบันเริ่มใส่ปู หรือไข่เค็ม และบางร้านใส่เนื้อสัตว์อย่าง หมูย่าง หมูกรอบ หมูยอ เพิ่มเติม
ทั้งนี้สำหรับที่มาของใส่มะละกอและพริก จริงๆ แล้วพืชทั้งสองชนิดไม่ได้มีต้นกำเนิดที่ไทย แต่ถูกนำเข้ามายังทวีปเอเชีย โดยพ่อค้าที่เดินทางมาทำการค้า ส่วนคำว่ามะละกอเป็นการออกเสียงเพี้ยนมาจากมะละกา เพราะคนไทยสมัยนั้นคิดว่า มะละกอ เป็นพืชพื้นเมืองของมะละกา นั่นเอง
สำหรับๆเพื่อนๆนักชิมที่ต้องรู้จักเมนูอื่นๆอีก สามารถรับชมเมนูหลากหลายที่
ซึ่ง bcnmalagacooking รับรองว่าต้องมีอย่างน้อย 5 อาหารไทยที่ควรกินสักครั้ง ตรงใจนักชิม
แหล่งที่มาของภาพ:
https://www.รีวิวไทยแลนด์.com/สงสัยไหม-ทำไมถึงเรียกว่/
https://aroi-mark.com/archives/1522
บทความที่อาจสนใจ 5 อาหารจีน แนะนำ ที่ควรกินสักครั้ง